หากคุณเป็นพนักงานบริษัท และองค์กรไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ คุณจะต้องเคยเจอกับคำว่า “การวิเคราะห์ SWOT” ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประเมินเพื่อนำไปใช้ปรับปรุงข้อบังคับภายในบริษัท แต่เป็นการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร ด้วยการวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย โอกาสและอุปสรรคที่ส่งผลในระยะยาวต่อบริษัท
การวิเคราะห์ SWOT เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการประเมินบริษัท หรือโครงการต่าง ๆ ของคุณ ไม่ว่าบริษัทจะมีพนักงานคนสองคนหรือ 500 คนก็ตาม ซึ่งในบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้องค์ประกอบเบี้องต้นของ SWOT เพื่อปรับปรุงกระบวนการภายใน
กระบวนการวิเคราะห์ SWOT
พวกเราทราบดีกันอยู่แล้วว่า SWOT เป็นคำที่ย่อมาจากอักษรตัวแรกของ จุดแข็ง (Strengths), จุดอ่อน (Weaknesses), โอกาส (Opportunities) และอุปสรรค (Threats) แต่องค์ประกอบของแต่ละคำนั้นหมายถึงอะไรบ้าง? ลองมาดูทีละองค์ประกอบกัน
Strengths : องค์ประกอบของจุดเด่น หรือจุดแข็ง
องค์ประกอบหลักของจุดแข็งคือ สิ่งที่บริษัท หรือโครงการของคุณทำได้ดีเป็นพิเศษ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนก็ได้ เช่นคุณลักษณะแบรนด์ของบริษัท หรือสิ่งที่กำหนดขึ้นอย่างข้อเสนอการขาย นอกจากนี้ยังอาจเป็นพนักงานในบริษัทของคุณ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม
Weaknesses : องค์ประกอบของจุดด้อย หรือจุดอ่อน
เมื่อเราวางจุดแข็งกันไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะหันมาให้ความสนใจกับจุดอ่อนด้วย ด้วยการนึกถึงสิ่งที่คุณจะได้กลับมาจากการทำธุรกิจและโครงการนั้น ๆ ซึ่งอาจรวมถึงความท้าทาย เช่น ข้อจำกัดด้านการเงินหรืองบประมาณ และการขาดแคลนบุคลากร เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงจุดอ่อนกว่าบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
Opportunities : องค์ประกอบของโอกาส
ถัดมาคือการวิเคราะห์โอกาส ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการพัฒนาแนวความคิดใหม่, เปิดตลาดใหม่ และอื่น ๆ ที่เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้บริษัทของคุณ รวมถึงเพื่อนำไปปรับปรุงยอดขาย และทำภารกิจขององค์กรให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
Threats : องค์ประกอบของอุปสรรค
สุดท้ายของการวิเคราะห์ SWOT คือ การวิเคราะห์อุปสรรค เป็นการวิเคราะห์ทุกอย่างที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อบริษัท หรืออุปสรรคที่อาจส่งผลต่อการประสบความสำเร็จหรือการเติบโต ซึ่งอาจรวมถึงคู่แข่งที่เกิดขึ้นใหม่, การเปลี่ยนแปลงของข้อกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ, ความเสี่ยงทางด้านการเงิน และทุกอย่างที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อบริษัทในอนาคต